อยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง เลือกวิธีไหนดี

หลายคนมีความฝันอยากเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเอง วันนี้ ดรีมมี่ ได้หยิบเอาแนวทางไอเดียการเปิดร้านกาแฟ
เพื่อมาแชร์กับทุกคน 3 แนวทางครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราเริ่มวิธีแรกกันเลยดีกว่า!!!

 

วิธีที่ 1. ซื้อแฟรนไชส์

ธุรกิจแฟรนไชส์มักจะเกิดจากธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับแล้ว นั่นหมายความว่าคุณสามารถเลือกซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ดังในตลาดที่คุณมั่นใจได้ และคุณจะมีผู้ช่วยที่จะมาแนะนำให้คำปรึกษาทุกอย่างในการเริ่มต้นเปิดร้าน ครบ จบ ทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ในการใช้แบรนด์ การช่วยโปรโมท การฝึกอบรม อุปกรณ์และวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาในการเรียนรู้ได้อย่างมาก

เรียกได้ว่าวิธีนี้ อำนวยความสะดวกได้ค่อนข้างครบ โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกตั้งแต่เริ่ม แต่อย่าลืมว่าการซื้อแฟรนไชส์นั้นก็มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงด้านของค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงในการชำระค่าธรรมเนียมและผลตอบแทนด้วย

 

 

วิธีที่ 2. สร้างเองตั้งแต่เริ่มต้น

วิธีนี้ จะแตกต่างจากการซื้อแฟรนไชส์ค่อนข้างชัดเจน เป็นวิธีที่อาจจะยากและเหนื่อยหน่อย เพราะคุณต้องเริ่มทุกอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่ศูนย์ ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูล การจัดซื้ออุปกรณ์ การหาทำเล การตกแต่ง การจ้างพนักงาน และการจัดการระบบ

แต่สิ่งหนึ่งที่คุณจะได้รับที่เหนือกว่าการซื้อแฟรนไชส์มาอย่างชัดเจนนั่นก็คือ อิสระในการดำเนินธุรกิจและการจัดการควบคุมทุกขั้นตอน
เพราะอย่าลืมว่าการซื้อแฟรนไชส์ คุณจะถูกควบคุมให้ต้องดำเนินธุรกิจตามรูปแบบที่ผู้ขายแฟรนไชส์กำหนดไว้เท่านั้น

นั่นแปลว่า หากคุณมีไอเดียอะไรแปลกๆใหม่ๆที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอยู่เสมอ การสร้างเองตั้งแต่เริ่มต้นน่าจะเหมาะกับคุณมากกว่าการซื้อแฟรนไชส์ เพราะคุณสามารถเลือกวิธีการหรือแนวทางได้เองทุกอย่างโดยไม่มีใครมาควบคุม

วิธีนี้จะทำให้คุณเก่ง เข้าใจและทำเป็นเกือบทุกอย่าง เพราะคุณต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ทำให้คุณได้พบเจอปัญหา แก้ไข พัฒนา อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มต้น

 

 

วิธีที่ 3. เซ้งร้านเก่ามาทำใหม่

หากคุณรอไม่ไหวที่จะสร้างธุรกิจเองตั้งแต่แรก หรือไม่อยากเสียเวลาลองผิดลองถูกเองทั้งหมด การเซ้งร้านเก่ามาทำใหม่ ถือเป็นทางลัดอีกวิธีที่น่าสนใจ เพราะการเซ้งร้านจะช่วยเซพเวลาในการเริ่มต้นได้เยอะพอสมควร

สิ่งที่คุณจะได้คือ ทำเลร้านและอุปกรณ์จากเจ้าของเดิมที่มีอยู่แล้ว องค์ความรู้ในการทำธุรกิจเช่นสูตรอาหารและเครื่องดื่ม และมากกว่านั้นคุณจะได้กรรมสิทธ์ในการใช้ชื่อร้านหรือชื่อแบรนด์ รวมไปถึงฐานลูกค้าเก่าด้วยครับ

แต่วิธีนี้ ก็มีข้อที่ต้องระวังอยู่เหมือนกัน สิ่งแรกเลยที่คุณจะต้องตรวจสอบและทำความเข้าใจให้ดีคือ มีสัญญาเช่าระบุรายละเอียดชัดเจนมั้ย สัญญามีระยะเวลากี่ปี ค่าเปลี่ยนชื่อในสัญญาเท่าไหร่ เพราะคงไม่ใช่เรื่องดีแน่หากโดนยกเลิกสัญญากลางคันโดยไม่ทันตั้งตัว

และอีกเรื่องที่ต้องตรวจสอบก่อนก็คือ สิ่งของต่างๆที่จะได้รับในการเซ้งกิจการมีสภาพการใช้งานเป็นอย่างไร ยังอยู่ในสภาพที่ดี และจำเป็นหรือไม่สำหรับคุณ เพราะทุกอย่างคือมูลค่าที่คุณสามารถคำนวนได้ว่าสิ่งที่จ่ายไปกับสิ่งที่จะได้รับ ตรงตามความต้องการหรือไม่

จะเห็นว่าทั้ง 3 วิธี มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันอยู่หลายๆจุด
แล้วคุณหล่ะครับ มีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง?
หรือใครที่กำลังคิดจะเปิดร้านอยู่ ลองมาพูดคุยหรือแชร์ไอเดียกันได้เลยครับ